ฟุตบอลโลก 2022 นัดสุดท้ายของรอบแรก คืนวันพฤหัสบดีที่ 1 ธ.ค. กลุ่ม E เตะพร้อมกันเวลา 02.00 น. ตามเวลาไทย “ซามูไร บลู” ญี่ปุ่น ปะทะแข้ง “กระทิงดุ” สเปน ที่สนามคาลิฟา อินเตอร์เนชันแนล สเตเดีhยม ถ่ายทอดสดทางทรูโฟร์ยู (24)/ช่อง 7 (35)/Truesport 2(667) อีกคู่ที่สนามอัล เบย์ต สเตเดีhยม “กล้วยหอม” คอสตาริกา วัดฝีเท้า “อินทรีเหล็ก” เยอรมนี ถ่ายทอดสดทางช่องไทยรัฐทีวี 32/Truesport 5(684)
สถานการณ์กลุ่มนี้ยังมีโอกาสเข้ารอบกันหมด สเปน นำจ่าฝูงที่ 4 แต้ม ตามด้วย ญี่ปุ่น และ คอสตาริกา ที่มี 3 แต้มเท่ากันแต่ญี่ปุ่นประตูได้เสียดีกว่า และ เยอรมนี 1 แต้ม โดยสเปนชนะคว้าแชมป์กลุ่มทันที แต่หากเสมอก็ยังเข้าและจะเป็นแชมป์กลุ่มด้วย หากอีกคู่จบลงที่ผลเสมอ
อย่างไรก็ตาม หากสเปนแพ้จะส่งญี่ปุ่นเข้ารอบ และสเปนยังมีโอกาสตกรอบด้วยหากว่าสเปนแพ้ ในขณะที่คอสตาริกาชนะเยอรมนี หรือเยอรมนีชนะด้วยสกอร์ที่ขาดลอยมโหฬาร เพราะเวลานี้ผลต่างประตูได้เสียของเยอรมนีเป็นรองสเปน 8 ประตู
ญี่ปุ่นแพ้ไม่ได้ร่วงทันที และจะเข้ารอบถ้าชนะสเปน แต่ถ้าเสมอก็อาจเข้ารอบได้ แต่อีกคู่ต้องเสมอด้วย หากว่าญี่ปุ่นเสมอและอีกคู่ถ้าคอสตาริกาชนะจะแซงเข้ารอบ ถ้าเยอรมนีชนะก็ดูผลต่างประตูได้เสียเทียบกับญี่ปุ่น
คอสตาริกา ชนะจะเข้ารอบโดยไม่ต้องดูผลอีกคู่ ถ้าเสมอก็ต้องภาวนาให้ญี่ปุ่นแพ้ ส่วนเยอรมนี ไม่มีทางเลือกอื่นต้องชนะอย่างเดีย; และดูผลของญี่ปุ่นที่หากแพ้เยอรมนีจะเข้า ถ้าญี่ปุ่นเสมอ เยอรมนีต้องชนะและดูผลต่างประตูได้เสียที่เป็นรองญี่ปุ่น 1 ประตู
ซามูไรตัวหลักเจ็บบาน
ฮาจิเมะ โมริยาสึ เฮดโค้ชทีมนักเตะเมืองปลาดิบ เกมก่อนพลาดท่าแพ้คอสตาริกา 0-1 ขาดแนวรับทั้ง ฮิโรกิ ซากาอิ และ ทาเคฮิโระ โทมิยาสึ ที่บาดเจ็บกล้ามเนื้อต้นขาหลัง ยังไม่แน่ว่าจะพร้อมหรือไม่ นอกจากนี้ วาตารุ เอนโด ก็เพิ่งบาดเจ็บอีกคน อาจต้องเปลี่ยน ฮิเดมาสะ โมริตะ ทำหน้าที่แทน
แผนการเล่นน่าจะใช้ระบบ 3-4-3 ชูอิจิ กอนดะ เฝ้าเสา แนวรับมี มายะ โยชิดะ, โก อิตะคูระ, ฮิโรกิ อิโตะ แดนกลางมี มิกิ ยามาเนะ, ฮิเดมาสะ โมริตะ, อาโอะ ทานากะ, ยูโตะ นากาโตโมะ สำหรับเกมรุก จุนยะ อิโตะ, ไดจิ คามาดะ และ ทาคุมะ อาซาโนะ
หลุยส์ เอ็นริเก กุนซือสเปนเพิ่งเสมอเยอรมนี 1-1 มีตัวผู้เล่นให้เลือกครบ ไม่มีใครบาดเจ็บเลย แต่อาจพัก กาบี ดาวเตะวัย 18 และส่งโกเก ลงมาทำหน้าที่แทนเหมือนในเกมที่แล้วกับเยอรมนี เซร์คิโอ บุสเกตส์ ถ้าโดนอีกใบเหลืองจะโดนแบน จึงน่าจะได้พักเช่นกัน โดยอาจเขยิบ โรดรี มาเล่นตำแหน่งถนัดแล้วส่ง เปา ตอร์เรส ยืนเซ็นเตอร์ฮาล์ฟ การ์ลอส โซแลร์ และ มาร์กอส ยอเรนเต ต่างคาดหวังว่าจะได้เป็นตัวจริง
แผนการเล่น 4-3-3 อูไน ซิมอน เฝ้าเสา แดนหลัง ฆอร์ดี อัลบา, อายเมอริก ลาปอร์กต์, เปส ตอร์เรส, ดานี การ์บาฮัล แดนกลาง โรดรี, เปดรี และ โกเก แผงเกมรุกเป็น เฟร์ราน ตอร์เรส, อัลบาโร โมราตาและ ดานี โอลโม
สถิติเจอกันของทีมชุดใหญ่หนเดียวในเกมอุ่นเครื่องเมื่อปี 2001 สเปน เฉือนชนะ 1-0
โดอันมั่นใจญี่ปุ่นสร้างเซอร์ไพร้ส์
ริตสึ โดอัน ตัวริมเส้นทีมชาติญี่ปุ่นมั่นใจว่าทีมสามารถหักเขา “กระทิงดุ” สเปน เพื่อผ่านเข้ารอบต่อไป โดย โดอัน และเพื่อนร่วมทีมอีก 9 คน ที่กาตาร์ เพิ่งเจอกับสเปนมาในฟตบอลโอลิมปิก เมื่อปีที่แล้ว ซึ่งเป็นญี่ปุ่นที่แพ้ 0-1 ในรอบรองชนะเลิศ หนนี้จึงหมายมั่นปั้นมือว่าจะล้างแค้นให้ได้คำพูดจาก สล็อต777
“ผมรู้สไตล์การเล่นของพวกเขา และไม่สามารถแพ้สองครั้งต่อคู่ต่อสู้ทีมเดิม เราจะพยายามให้ดีที่สุด” โดอัน กล่าว ในขณะที่สเปนชุดปัจจุบันก็มีอยู่ 7 คน ที่มีส่วนร่วมในรอบรองฯ โอลิมปิกคำพูดจาก สล็อตทดลองเล่นฟรี
ขณะที่ ยูกิ โซมะ มิดฟิลด์ ก็เผยถึงแผนการเล่นว่า “เราจะมีปัญหาหากพวกเขาเจาะเราเข้ามาได้ เราต้องเหนียวแน่นและใช้การโต้กลับเร็วเป็นกุญแจสำคัญ”
ฟูลล์ครุกตัวจริงขยี้กล้วยหอม
ฮันซี ฟลิค เทรนเนอร์ของทีมเมืองไส้กรอก อดีตแชมป์ 4 สมัย สุ่มเสี่ยงต่อการตกรอบหลังแพ้นัดแรก แต่กลับมามีโอกาสเข้ารอบต่อไป ขอเพียงชนะเกมนี้ให้ได้ก่อนแล้วค่อยดูผลอีกคู่ ลีรอย ซาเน น่าจะพร้อมออกสตาร์ตตัวจริงแล้วหลังหายเจ็บลงมาเป็นสำรองเกมก่อน
แผนการเล่น 4-2-3-1 ผู้รักษาประตู มานูเอล นอยเออร์ แนวรับมี ธิโล เคห์เรอร์, อันโตนิโอ รูดิเกอร์, นิคลาส ซูเล, เดวิด รวม ตรงกลางเป็น โจชัว คิมมิช, อิลกาย กุนโดกัน อยู่หลัง จามาล มูเซียลา, แซร์จ นาบรี, ลีรอย ซาเน และ นิคลาส ฟูลล์ครุก ฮีโร่เกมที่แล้วได้ออกสตาร์ต 11 คนแรก
หลุยส์ เฟอร์นานโด ซัวเรซ กุนซือคอสตาริกา น่าจะมาเน้นรับแล้วโต้กลับเพราะยังไงก็โดนเยอรมนีบุกใส่แน่ๆ แต่ความพร้อมจะขาดเซ็นเตอร์แบ๊ก ฟรานซิสโก กาลโว ที่ติดโทษแบน แผนการเล่น 5-4-1 ดาเนียล ชาคอน มายืนเซ็นเตอร์เล่นร่วมกับ เคนดอลล์ วาสตัน, ออสการ ดูอาร์เต เกมรุก แอนโธนี คอนเตรราส เป็นหน้าเป้า
กลุ่มFแย่งเข้ารอบกัน 3 ทีม
กลุ่ม F เตะพร้อมกันเวลา 22.00 น. “ตาหมากรุก” โครเอเชีย เจอกับ “ปิศาจแดงแห่งยุโรป” เบลเยียม ทีมอันดับ 2 ของโลก แข่งที่อาห์หมัด บิน อาลี สเตเดี้ยม ถ่ายทอดสดทางทรูโฟร์ยู (24)/MCOT HD 30/Truesport 2(667) และ “ใบเมเปิล” แคนาดา เจอกับ “สิงโตแอตลาส” โมร็อกโก ที่สนามอัล ธูมามา ถ่ายทอดสดทาง Thai PBS (3)/Truesport 5(684)
สถานการณ์กลุ่มนี้ โครเอเชีย นำจ่าฝูงที่ 4 แต้ม รองลงมา โมรอกโก 4 แต้มเท่ากัน แต่ลูกได้เสียเป็นรอง 1 ประตู ตามด้วยเบลเยียม 3 แต้ม และ แคนาดา ไม่มีแต้มตกรอบไปเรียบร้อย โดย โครเอเชีย จะเข้ารอบแน่หากไม่แพ้ เบลเยียม และถ้าชนะจะเป็นแชมป์กลุ่มขึ้นอยู่กับคู่ โมร็อกโก
โมร็อกโก ขอเพียงเสมอจะการันตีเข้ารอบ ส่วน เบลเยียม ต้องชนะไว้ก่อนเพื่อเข้ารอบน็อกเอาต์ แต่หากทำได้เพียงเสมอก็ต้องสวดมนต์ภาวนาให้แคนาดาที่ตกรอบไปแล้วพลิกล็อกชนะโมร็อกโก และดูผลต่างประตูได้เสียระหว่างเบลเยียมกับโมร็อกโก ที่ก่อนแข่งโมร็อกโก +2 เบลเยียม -1
ปิศาจแดงกำลังป่วนเจอศึกหนัก
ซลัตโก ดาลิช กุนซือทีมชาติโครเอเชีย เจ้าของรองแชมป์สมัยที่แล้ว เพิ่งถล่ม แคนาดา 4-1 อาจไม่มี นิโคลา วลาซิช ที่บาดเจ็บน่องตั้งแต่เกมกับ โมร็อกโก ไม่แน่ว่าหนักหนาหรือไม่ แต่ มาร์โก ลิวายา ที่ลงมาแทนก็ทำได้ดี ที่เหลือไม่มีใครเจ็บเพิ่ม
แผนการเล่น 4-3-3 เกมรับ โจซิป จูราโนวิช, เดยัน ลอฟเรน, ยอสโก กวาร์ดิโอล และ บอร์นา โซซา แผงกลางนำโดย ลูกา โมดริช, มาร์เซโล โบรโซวิช และ มาเตโอ โควาซิช ขณะที่ อังเดรจ์ คามาริช ถ่างไปยืนขวา ลิวายา เป็นหน้าเป้า และ อิวาน เปริซิช เป็นตัวรุกด้านซ้าย
โรแบร์โต มาร์ติเนซ กุนซือ “ปิศาจแดง” เบลเยียมเพิ่งแพ้โมร็อกโก 0-2 มีข่าวว่าจะโดนปลดหากตกรอบแรก แถมในทีมเหมือนมีปัญหาหลังจาก เควิด เดอ บรอยน์ บอกทีมชุดนี้แก่เกินจะคว้าแชมป์ ก่อนที่ แยน แฟร์ตองเกน เพื่อนร่วมทีมวัย 35 ปี ออกมาสวนกลับว่านักเตะเกมรุกแก่เกินไป แถมยังมีข่าวลือว่า เดอ บรอยน์, แฟร์ตองเกน และ อาซาร์ ทะเลาะกันรุนแรงถึงขั้นชกกันหลังแพ้เกมที่แล้ว
สภาพทีมไม่มี อมาดู โอนานา ที่ติดโทษแบน แผน 3-4-2-1 ผู้รักษาประตู ธิโบต์ กูร์ตัวส์ กองหลัง แยน แฟร์ตองเกน, โทบี อัลเดอร์ไวเรลด์, วูต ฟาส ขึ้นมาตรงกลาง โธมัส มูนิเยร์, ยูริ ตีเลอมันส์, อักเซล วิตเซล, เลอันโดร ทรอสซาร์ อยู่หลัง เควิน เดอ บรอยน์, เอแดน อาซาร์ และ โรเมลู ลูกากู เป็นตัวจริง
สถิติเจอกันมา 8 ครั้ง ผลัดกันแพ้ชนะฝ่ายละ 3 ครั้ง เสมอ 2 ไม่เคยเจอกันในฟุตบอลโลก รอบสุดท้ายมาก่อน แต่เคยเจอกันในรอบคัดเลือก ทั้งหมด 4 ครั้ง หนแรกเมื่อปี 2000 เสมอกัน 0-0 และโครเอเชียชนะ 1-0 จากนั้นปี 2012 เสมอกัน 1-1 และเบลเยียมชนะ 2-1